วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 11.00 น. ณ สหกรณ์การเกษตรศรีรัตนะ จำกัด นายภาณุพงศ์ แสงคำ สหกรณ์จังหวัดศรีสะเกษ  เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “โครงการส่งเสริมการผลิต การตลาดพืชหลังนาผ่านระบบสหกรณ์ ปีการผลิต 2566/67 ระหว่างสหกรณ์การเกษตรศรีรัตนะ จำกัด กับบริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) และบริษัท ที วาย เอ็น ทรานสปอร์ต จำกัด ภายใต้การบูรณาการหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการผลิต การตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์อย่างยั่งยืน สนับสนุนให้นำพื้นที่หลังฤดูทำนาที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ มีการปรับเปลี่ยนการปลูกพืชฤดูแล้ง “วิถีศรีรัตนะ ปลูกพืชหลังนา ขยายผลสร้างรายได้ เสริมสร้างเศรษฐกิจจังหวัดศรีสะเกษ”  โดยขยายผลการรวบรวมผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ สหกรณ์การเกษตรศรีรัตนะ จำกัด (แม่ข่าย)  ลงนาม MOU กับ สหกรณ์เครือข่าย จำนวน 2 สหกรณ์ ได้แก่ สหกรณ์การเกษตรเบญจลักษ์ จำกัด และสหกรณ์การเกษตรพยุห์ จำกัด  กลุ่มแปลงใหญ่ 4 แปลง ได้แก่ แปลงใหญ่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ หมู่ 7 หมู่ 8 ตำบลศรีแก้ว อำเภอศรีรัตนะ แปลงใหญ่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์บ้านหนองจิก ตำบลพิงพวย อำเภอศรีรัตนะ แปลงใหญ่ข้าวโพด หมู่ 4 ตำบลหนองงูเหลือม อำเภอเบญจลักษ์  เป็นการเพิ่มศักยภาพการผลิตข้าวโพดเพื่ออุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ลดการบุกรุกป่าและต้นน้ำลำธาร ลดการเผาตอซังมีการใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม การนำเปลือกข้าวโพดเป็นอาหารสัตว์ ลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มรายได้ โดยการสนับสนุนความรู้ทางด้านวิชาการ เทคโนโลยี เงินทุน ปัจจัยการผลิต ส่งเสริมด้านการผลิต การตลาด การรวบรวมผลผลิตส่งโรงงาน ตามนโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ 

ประโยชน์ที่จะได้รับจากการลงนามบันทึกข้อตกลง

            1.สหกรณ์การเกษตรศรีรัตนะ จำกัด และสหกรณ์เครือข่าย มีปริมาณธุรกิจรวบรวมเพิ่มขึ้น ปริมาณผลผลิตไม่น้อยกว่า 8,500 ตัน สมาชิกจำนวน 1,035 ราย พื้นที่ 6,450 ไร่ มีรายได้เพิ่มเฉลี่ย 80,000 บาท/ราย/ปี และมีแหล่งจำหน่ายที่แน่นอน

            2.จากความร่วมมือกับภาคเอกชนทำให้เกษตรกรสมาชิกมีรายได้เพิ่มขึ้น 250 บาท/ตัน ส่งผลให้เกษตรกรสมาชิกมีการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังนาเพิ่มมากขึ้น

            3.สร้างความเข้มแข็งให้เครือข่ายสหกรณ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และขบวนการสหกรณ์สามารถบริหารผลผลิตให้เกิดความสมดุล

            4.การบูรณาการร่วมกันระหว่างเกษตรกร สหกรณ์ หน่วยงานราชการ และหน่วยงานเอกชน เกิดการทำงานร่วมกัน เดินทางไปในทิศทางเดียวกัน ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้และความมั่นคงในอาชีพเกษตรมากยิ่งขึ้น รวมทั้งภาคเอกชนมีผลผลิตที่ได้คุณภาพ มีความมั่นคงในการจัดหาวัตถุดิบป้อนอุตสาหกรรมอาหารสัตว์